จอร์เจีย เที่ยวได้ไม่ต้องง้อวีซ่า !!!
มาทำความรู้จักประเทศจอร์เจีย เมืองหลวงของจอร์เจีย มีชื่อว่า Tbilisi อ่านว่า ทบิลิซี่ จอร์เจีย มีชายแดนทางเหนือติดรัสเซีย ทางใต้ติดตุรกี อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน และมีทะเลดำอยู่ทางซ้าย ทะเลแคสเปี้ยนอยู่ทางขวา เคยเป็นสหภาพโซเวียตมาก่อน มีชื่อทางการว่า สาธารณะรัฐจอร์เจีย ประเทศนี้นับว่ามีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 2500 ปีมาแล้ว ในอดีตประเทศจอร์เจียเคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต แต่ได้มีการแยกตัวออกมาเมื่อปี ค.ศ. 1991 ซึ่งประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ ภาษาของประเทศจอร์เจีย ขึ้นชื่อว่าเป็นภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยในปัจจุบันภาษาหลักที่คนจอร์เจียใช้สื่อสารก็ยังเป็นภาษาจอร์เจีย และอีกภาษาหนึ่งที่ใช้ก็คือภาษารัสเซีย จอร์เจียอยู่ในยุโรป หรือ เอเชีย ? คำถามนี้เป็นประเด็นคล้ายกับตุรกีและประเทศอื่นๆ ใกล้เคียง จริงๆ แล้ว ประเทศแถบนี้เรียกว่าเป็นประเทศ transcontinental คืออยู่ทั้งสองทวีปแล้วแต่ว่าจะใช้อะไรเป็นหลักการ เช่น ถ้าใช้หลักการทางภูมิศาสตร์ ว่าขอบของแผ่นทวีปยุโรปสุดที่เทือกเขาคอเคซัส ประเทศจอร์เจีย จะถือว่าอยู่ในทวีปเอเชียทันที แต่หากมองเรื่องการปกครอง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วัฒนธรรม แม้แต่การแข่งกีฬา หลายครั้งจอร์เจียจะอยู่ในฝั่งยุโรป สถานที่ท่องเที่ยวในจอร์เจียที่นี่ เป็นที่ที่คุณจะเที่ยวแบบไหนก็ได้ ทั้งสายศิลปะวัฒนธรรม สายประวัติศาสตร์ สายฮิปสเตอร์ สายธรรมชาติ และ สายกินดื่ม ฤดูกาลของประเทศจอร์เจียนั้นจะมีทั้งหมด 4 ฤดูได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค. – พ.ค.), ฤดูร้อน (มิ.ย. – ส.ค.), ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย. – พ.ย.) และฤดูหนาว (ธ.ค. – ก.พ.) โดยแต่ละฤดูนั้นก็มีความสวยงามและความน่าเที่ยวต่างกัน อย่างเช่น ฤดูหนาวก็จะมีความสวยงามของหิมะ เหมาะที่จะเล่นสกี แต่การเดินทางไปหลายที่นั้นลำบากมากกก, ช่วงฤดูร้อน หรือฤดูใบไม้ผลิก็จะได้ความงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ส่วนช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้ความงามของใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี ประเทศจอร์เจียเป็นประเทศที่เราคนไทยสามารถไปเที่ยวได้เลยโดยไม่ต้องขอวีซ่า (Visa) ที่สำคัญเราสามารถอยู่ในประเทศนี้ได้นานถึง 1 ปี
สถานที่ท่องเที่ยวในจอร์เจีย
- โบสถ์เกอลาติ (Gelati Monastery) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจอร์เจียที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1106 ทางตะวันตกของประเทศจอร์เจีย นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของยุคทองของเศรษฐกิจและการเมือง ในจอร์เจียช่วงยุคกลางระหว่างศตวรรษที่ 11 และ 13 ตัวโบสถ์โดดเด่นด้วยด้านหน้าของตัวอาคารที่ใช้อิฐบล็อกขนาดใหญ่
- สะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace)เป็นสะพานคนเดินรูปโค้ง ก่อสร้างด้วยเหล็กและแก้ว ประดับไฟ LED จำนวนมากเหนือแม่น้ำคูรา อยู่ในตัวเมืองทบิลิซี เมืองหลวงของประเทศจอร์เจีย ตัวสะพานทอดยาว 150 เมตร เป็นสะพานเชื่อมต่อเขตเมืองเก่ากับเขตเมืองใหม่เข้าด้วยกัน ในเวลากลางคืนสะพานจะถูกส่องสว่างด้วยไฟ LED สีขาวนับพันบริเวณหลังคา
- เมืองอุพลิสชิเค่ (Uplistsikhe) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมิกวาริ ตัวถ้ำเป็นการเจาะตีนเขาให้เป็นโพรงทะลุถึงกัน ภายนอกมีบันไดและมีถนนหินเป็นส่วนเชื่อมต่อแต่ละถ้ำ มีการสันนิษฐานว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยก่อนคริสตกาลเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ส่วนด้านบนสุดของถ้ำมีโบสถ์นิกายโรมันคาทอลิก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 9 หรือ 10 หลังจากคริสต์ศาสนาเผยแผ่เข้ามาในจอร์เจีย ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก